คนที่โชคดีที่สุดในชีวิตการทำงาน คือ คนที่ได้ทำงานที่ตัวเองรัก
แต่ปัญหาคือ คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ารักอะไร

คุณเชื่อหรือไม่ว่า 7 ใน 10 คนทำงานไม่ชอบงานที่ทำอยู่ ไม่มีความสุขและมีผลงานไม่ดี

บางคนบอกว่างานอะไรก็ได้ให้ได้เงินมากๆ แล้วค่อยเอาเวลาที่เหลือไปทำสิ่งที่รัก
แต่คุณลองคิดดูว่า คุณกำลังทำในสิ่งที่คุณไม่มีความสุข และแบ่งเวลาที่เหลือไปทำสิ่งที่รัก
ถ้าคนเราทำงานวันละ 8-12 ชั่วโมง หักเวลานอนออก 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เท่ากับเรากำลังเลือกอยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิต และผลลัพธ์ที่คุณจะได้ก็คือ ความทุกข์และผลงานที่ไม่ดี

ชีวิตจะดีกว่ามากถ้าคุณได้ทำงานที่รัก มีความสุข และมีผลงานที่ดี
เวลาของคุณมี จำกัด ดังนั้นอย่าเสียเวลาทำสิ่งที่คนอื่นชอบ จงหาสิ่งที่ตัวเองรักและทำออกมาให้เต็มที่

บางคนมีความจำเป็นต้องทำงานเพราะต้องการรายได้มาใช้จ่าย ไม่มีทางเลือกกับงานที่รัก ก็ไม่เป็นไร พยายามรักมัน และทำต่อไปให้ดีที่สุด แต่สิ่งสำคัญคือ คุณต้องมีระยะเวลาและเป้าหมาย ไม่ลืมที่จะสร้างโอกาสหาโอกาสเสมอที่จะได้ทำงานที่รักจริงๆ ให้ได้

แต่ถ้าคุณยังหาไม่เจอว่าคุณรักอะไร สิ่งที่คุณต้องทำ คือ อย่าหยุดค้นหา ลองทำจนกว่าจะเจอ
หาสิ่งที่รัก ให้เหมือนกับตามหาคนรัก เมื่อเจอแล้วถือว่าคุณโชคดี แล้วคุณจะรู้ว่าทุกเวลาของการทำงานที่รัก คุณจะหลงใหลกับสิ่งที่คุณทำ คุณจะมีความสุข ปัญหาจะเป็นสิ่งท้าทาย คุณจะเห็นความยากเป็นการเรียนรู้

“ ทางเดียวที่คุณจะทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม คือ รักในสิ่งที่คุณทำ หากคุณยังไม่พบให้หาต่อไป อย่าหยุด”

สตีฟ จอบส์

วิธีที่จะทำให้คุณพึงพอใจอย่างแท้จริงคือการทำสิ่งที่คุณเชื่อว่าเป็นงานที่ดีและวิธีเดียวที่จะทำงานที่ยอดเยี่ยมคือรักสิ่งที่คุณทำ ยิ่งคุณค้นหาได้เร็ว ก็จะยิ่งทำให้คุณประสบความสำเร็จได้เร็วเท่านั้น แต่ถ้ายังไม่เจอ ก็แค่หาต่อไป
สุดท้ายคำถามที่สำคัญง่ายๆ ที่ช่วยตอบว่าคุณรักงานที่ทำหรือไม่ คือ

“ถ้าคุณถูกลอตเตอรี่ 10 ล้านตอนนี้ คุณจะยังทำงานปัจจุบันอยู่หรือไม่ ถ้าคุณเลือกที่จะทำต่อไป คุณมีแนวโน้มที่จะอยู่กับงานที่รักแล้ว”