เพื่อความมีประสิทธิภาพของธุรกิจ

หลักการคิดแบบลีน (Lean Thinking) การตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อความยั่งยืนขององค์กร

Written by:

หลักสูตรการฝึกอบรม :

การบริหารจัดการเพื่อความสำเร็จทั่วทั้งองค์กรด้วยการคิดและทำแบบลีน(Lean Management)

วิทยากร : อ.ธวัชชัย บัววัฒน์

หลักการ/แนวความคิด :

การบริหารจัดการจะสำเร็จทั่วทั้งองค์กรได้ย่อมเกิดจากกระบวนการทำงานต่างๆทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะแต่ละกระบวนการเป็นองค์ประกอบสำคัญที่เป็นเหมือนสูตรที่สร้างความสำเร็จให้กับองค์กร เพราะในองค์กรปัจจุบันประกอบด้วยกระบวนการต่างๆมากมายที่ทำงานประสานกันในการขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถส่งมอบสินค้าและบริการตรงตามความต้องการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ 

ลองคิดดูว่าถ้าแต่ละกระบวนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจะส่งผลดีอย่างไรต่อองค์กร

  • ดีต่อลูกค้า เพราะกระบวนการที่ดีนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ด้วยการส่งมอบคุณค่าอย่างสม่ำเสมอและเชื่อถือได้
    • ดีต่อคนทำงาน เพราะกระบวนการที่ดีนำมาซึ่งการทำงานที่ง่าย รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
    • ดีต่อหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพราะกระบวนการที่ดีทำให้ หน่วยงาน คน ที่ทำงานร่วมกันกับองค์กรของเรา สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น ถูกต้องและชัดเจนในการสื่อสารและทำงานร่วมกัน

การสร้างกระบวนการที่ดีและมีประสิทธิภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรสร้างให้เกิดขึ้นภายในองค์กรอยู่เสมอ ด้วยหลัก 2 ประการ ก็คือ 1.การจัดการกระบวนการ(Process Management)ให้มีประสิทธิภาพ และ      2.พัฒนากระบวนการ(Process Improvement)ให้สามารถตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลง เพราะทั้งสองสิ่งนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถเอาชนะความท้าทายที่เกิดขึ้นตลอดเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคนิคหนึ่งที่สามารถสร้างและปรับปรุงกระบวนการการทำงานด้วยการคิดทั้งระบบ(System Thinking) ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็คือ การคิดและทำแบบลีน(Lean Thinking) ปัจจุบันการปรับปรุงการทำงานด้วยเทคนิคลีน (Lean)ก้าวไปไกลกว่าจุดเริ่มต้นแค่ในกระบวนการผลิต เพราะด้วยเทคนิคและแนวทางที่เป็นประโยชน์ในการขจัดความสูญเปล่า(Waste Elimination)ของกระบวนการทำงาน เพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพการทำงาน สามารถนำมาใช้อย่างกว้างขวางในการพัฒนากระบวนการทั้งในอุตสาหกรรมบริการหรือส่วนงานสำนักงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการจัดการตลอดทั้งโซ่อุปทาน(Supply Chain Management)โดยมีเป้าหมายเพื่อ สร้างความมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดทั้งกระบวนการของการทำงาน ให้กิจการสามารถตอบสนองได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามการประยุกต์ใช้เทคนิคลีนต้องเริ่มจากความตระหนักถึงความสำคัญและความเร่งด่วนของการเปลี่ยนแปลง(Sense of Urgency) โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการคิดที่นำไปสู่การตัดสินใจที่จะกระทำหรือไม่กระทำเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และแน่นอนว่าทุกการเปลี่ยนแปลงนำมาซึ่งความท้าทายเพราะเราต้องทำให้ทุกคนในองค์กรทำในสิ่งที่ต่างไปจากเดิม เพื่อพัฒนาให้เกิดผลลัพธ์ดีขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต้องเกิดขึ้นจากการมีส่วนร่วมของทุกคน และต้องถูกขับเคลื่อนจากผู้นำในทุกระดับในการสร้างและคิดวิธีการใหม่(Creative Thinking) เพื่อนำไปสู่กลยุทธ์ในการออกแบบกระบวนการด้วยหลักของการนำการเปลี่ยนแปลง(Leading Change)ให้เกิดขึ้นทั่วทั้งองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม

หลักสูตรนี้จึงถูกออกแบบเพื่อให้พนักงานระดับหัวหน้างาน และผู้บริหารมีความตระหนักถึงบทบาทตัวเองในการมีส่วนร่วมพัฒนากระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น โดยสามารถใช้เทคนิคการคิดและทำแบบลีน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นภายในองค์กร และนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการร่วมกันส่งต่อคุณค่าอย่างรวดเร็วและตรงตามความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป โดยที่ยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงานให้มีความยืดหยุ่นและเป็นกระบวนการที่มีมาตรฐานสูง  

ธวัชชัย บัววัฒน์

Tawatchai Buawat

ใส่ความเห็น